ความเป็นมาของภาษา SQL
ใน ปีค.ศ 1974 ศูนย์วิจัย IBM ได้พัฒนาRDBMS (Relational database ManagementSystem) ที่ชื่อว่า System R เพื่อทดลองใช้งาน และแสดงให้เห็นถึงความง่ายของการใช้งานฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์จึงได้ทําการพัฒนาภาษาที่เรียกว่าSEQUEL (Structured English Query language) เป็นส่วนประกอบของ RDBMS ที่สามารถรองรับการสืบค้นข้อมูลจากหลายตารางและการเข้าถึงฐานข้อมูลโดยผู้ใช้หลายคน และต่อมาได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น SQL ซึ่งในปัจจุบันได้มี RDBMSหลายตัวถูกสร้างขึ้นมา โดยมีภาษา SQL เป็นองค์ประกอบที่สําคัญ เนื่องจากความหลากหลายของ RDBMS ที่ถูกสร้างโดยบริษัทต่างๆ สถาบันมาตรฐานแห่งชาติอเมริกา (American National Standards institute–ANSI) และองค์กรมาตรฐานระหว่างประเทศ (International Standard Organization–ISO) จึงได้กําหนดมาตรฐานของภาษา SQL ขึ้นเพื่อให้ทุก DBMS มีภาษา SQL ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ในปี 1980 จึงได้เกิดภาษา SQL-89 หรือที่เรียกว่า SQL1 ขึ้น และในปี 1992 ก็ได้มีการพัฒนาปรับปรุง SQL-89 ให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นอีกและพัฒนาเป็นภาษา SQL- 92 หรือ SQL2 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่กลุ่มผู้ผลิต DBMS ใช้เป็นมาตรฐาน SQLในปัจจุบัน ในปีค.ศ.1999 มีการพัฒนาเป็นภาษา SQL-99 หรือ SQL3 ที่มีการรวมแนวคิดเชิงวัตถุ(Object-Oriented Concept) เข้าไปด้วย แต่ SQL-99 ก็ไม่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ผลิต DBMS
องค์ประกอบของภาษา SQL
ภาษา SQL (Structured English Query language) เป็นภาษาที่มีรูปแบบเป็น(ภาษาอังกฤษ)เรียนรู้และการเขียนโปรแกรม ซึ่งเป็นภาษาที่มีอยู่ใน DBMS หลายตัว มีความสามารถง่ายต่อการใช้นิยามโครงสร้างตารางภายในฐานข้อมูล การจัดการข้อมูล รวมไปถึงการควบคุมสิทธิการใช้งานฐานข้อมูล SQL จะประกอบด้วยภาษา 3 รูปแบบด้วยกัน แต่ละแบบก็จะมีหน้าที่เฉพาะแตกต่างกันไป
แสดงดังรูป
1. ภาษาสําหรับการนิยามข้อมูล (Data Definition Language : DDL)
2. ภาษาสําหรับการจัดการข้อมูล (Data Manipulation Language : DML)
3. ภาษาสําหรับการควบคุมข้อมลู (Data Control Language : DCL)
:http://www.sttc.ac.th/~computerbc/backup/elearning/database/chapter5.pdf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น